MOVIE REVIEW AND STORYLINE: FIFTY SHADES FREED (2018)

Movie Review and Storyline: Fifty Shades Freed (2018)

Movie Review and Storyline: Fifty Shades Freed (2018)

Blog Article

รีวิวหนัง Fifty Shades Freed (2018) ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด


Movie Review and Storyline: Fifty Shades Freed (2018)



ข้อมูลหนัง


ประเภทหนัง:  ลึกลับ, โรแมนติก, ดรามา และระทึกขวัญ


ผู้กำกับ:  James Foley


นักเขียน:  Niall Leonard และ E.L. James


นักแสดงนำ:  Dakota Johnson, Jamie Dornan และ Eric Johnson





เรื่องย่อ


Fifty Shades Freed (2018) ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด บอกเล่าเรื่องราวของคริสเตียน เกรย์ และอนาสตาเซีย เกรย์ คู่รักที่เพิ่งแต่งงานใหม่ กำลังดื่มด่ำกับความสุขในช่วงฮันนีมูน แต่ต้องถูกบังคับให้กลับบ้านเร็วกว่ากำหนดหลังได้รับข่าวร้ายเกี่ยวกับการบุกรุกที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทคริสเตียน แจ็ก ไฮด์ อดีตเจ้านายของอนาสตาเซียที่เคยถูกไล่ออกจากงานในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ได้ลักลอบขโมยไฟล์สำคัญในระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท ซึ่งสร้างความกังวลใจอย่างมากให้กับทั้งคู่ เมื่อกลับมาถึงบ้าน คริสเตียนได้ทำเซอร์ไพรส์อนาสตาเซียด้วยการแนะนำบ้านใหม่ที่เขาเพิ่งซื้อ และวางแผนจะปรับปรุงใหม่ให้สมบูรณ์แบบโดยจ้างสถาปนิกชื่อ เกีย แมตเตโอ เพื่อออกแบบตามความต้องการของเธอ อย่างไรก็ตาม เกียแสดงความเจ้าชู้ต่อคริสเตียนอย่างเปิดเผย ทำให้อนาสตาเซียไม่พอใจ เธอจึงเผชิญหน้ากับเกียอย่างตรงไปตรงมา ขู่จะไล่เธอออกหากยังมีพฤติกรรมเช่นนี้ เกียจึงต้องหยุดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมไปในที่สุด ดูหนังฝรั่ง เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ภาพคมชัด ระดับ HD ได้แล้ววันนี้

 

ในขณะที่คริสเตียนต้องเดินทางไปทำธุรกิจ อนาสตาเซียที่เบื่อกับการอยู่บ้านตามคำขอของเขา ได้แอบออกไปพบเคท คาเวอนาห์ เพื่อนสนิทของเธอ ทั้งคู่ใช้เวลาพูดคุยและดื่มด้วยกัน เคท ซึ่งกำลังคบหากับเอลเลียต พี่ชายของคริสเตียน แสดงความกังวลว่าเอลเลียตอาจมีความสัมพันธ์กับเกีย เพื่อนร่วมงานของเขา แต่ความสงบสุขของค่ำคืนนั้นต้องจบลง เมื่ออนาสตาเซียกลับถึงบ้านและถูกแจ็ก ไฮด์พยายามลักพาตัว โชคดีที่ทีมรักษาความปลอดภัยของเธอเข้าช่วยเหลือได้ทัน และไฮด์ถูกจับกุมในที่สุด หลังจากเหตุการณ์นี้ อนาสตาเซียและคริสเตียนมีปากเสียงกันเรื่องที่เธอแอบออกไปพบเคท คริสเตียนถูกกล่าวหาว่าเป็นคนชอบควบคุมและขี้หึงมากเกินไป ส่วนอนาสตาเซียต้องการความเป็นอิสระมากขึ้น แต่ในเวลาต่อมา คริสเตียนก็พยายามปรับความเข้าใจกับเธอ โดยพาทั้งเคท เอลเลียต และเพื่อนคนอื่นๆ ไปเที่ยวพักผ่อนที่แอสเพน ระหว่างการเดินทาง เอลเลียตได้ขอเคทแต่งงาน ซึ่งเธอก็ตอบตกลง เผยให้เห็นว่าเรื่องราวที่เคยสงสัยเกี่ยวกับเกียนั้นไม่มีมูลความจริง

 

ในขณะเดียวกัน คู่รักยังคงสำรวจความสัมพันธ์ทางเพศที่มีความซับซ้อนมากขึ้น แต่ความสัมพันธ์ก็ต้องเจอความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่ออนาสตาเซียประกาศว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ คริสเตียนซึ่งยังไม่พร้อมรับมือกับบทบาทความเป็นพ่อ รู้สึกสับสนและเสียใจจนหนีไปดื่มเหล้า และไปพบกับเอเลน่า ลินคอล์น อดีตคนรักที่มีความสัมพันธ์ในเชิง BDSM กับเขาเมื่อวัยรุ่น เมื่ออนาสตาเซียทราบเรื่อง เธอโกรธมากและขังตัวเองในห้องเล่นเกมทั้งคืน หลังจากทะเลาะกันในเช้าวันถัดมา ทั้งคู่เริ่มเข้าใจกันมากขึ้นเมื่อคริสเตียนตระหนักถึงความสำคัญของลูกในอนาคตสำหรับเธอ

 

เหตุการณ์กลับมาสู่จุดตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อแจ็ก ไฮด์ที่ได้รับการปล่อยตัวออกมาด้วยเงินประกัน โทรหาอนาสตาเซียและขู่เรียกเงินค่าไถ่ 5 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าเขาได้ลักพาตัวมีอา น้องสาวของคริสเตียน อนาสตาเซียจำใจต้องทำตามคำขู่ โดยเก็บปืนและสมุดเช็คของคริสเตียนไปยังธนาคารเพื่อถอนเงิน แต่เธอได้วางแผนลับด้วยการใส่โทรศัพท์สำรองไว้ในกระเป๋าเงินเพื่อติดตามตำแหน่งของเธอเอง ในที่สุด ไฮด์ก็ถูกจับกุมหลังจากที่เขาพยายามทำร้ายเธอ แต่อนาสตาเซียสามารถป้องกันตัวด้วยปืนที่พกไปด้วย

 

หลังจากเหตุการณ์อันตรายนี้ คริสเตียนและอนาสตาเซียได้พูดคุยปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง คริสเตียนเริ่มเปิดใจรับความเป็นพ่อ และเข้าใจถึงความรักและความเสียสละของอนาสตาเซียที่มีต่อเขา ทั้งคู่คืนดีกันและเตรียมพร้อมสำหรับการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวใหม่ ในช่วงหลายปีถัดมา อนาสตาเซียและคริสเตียนใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบสุขที่บ้านริมทะเลสาบกับเท็ดดี้ ลูกชายคนแรกของพวกเขา และอนาสตาเซียกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง ทั้งคู่มองย้อนกลับไปถึงเส้นทางชีวิตที่เต็มไปด้วยความท้าทายและการเรียนรู้ ซึ่งทำให้ความรักของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน



ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์


แฟรนไชส์ Fifty Shades Freed (2018) ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด ได้รับทั้งคำชื่นชมและวิจารณ์อย่างหนักมาตั้งแต่เริ่มต้น และในขณะที่ภาพลักษณ์ของเรื่องนี้มักถูกมองในแง่ลบว่าเป็นการสนับสนุนความสัมพันธ์ที่ควบคุมและล้ำเส้น แต่ปัญหาที่แท้จริงกลับอยู่ที่การผสมผสานเนื้อหาที่เกินความจำเป็น ซึ่งทำให้แฟรนไชส์นี้หลุดออกจากจุดเด่นเดิมของมัน เรื่องราวเกี่ยวกับเซ็กส์และความสัมพันธ์ BDSM ที่ควรเป็นหัวใจสำคัญ กลับถูกเบี่ยงเบนด้วยดราม่าที่ซับซ้อนเกินไป เช่น การลักพาตัว การไล่ล่าด้วยรถยนต์ เฮลิคอปเตอร์ตก และความดราม่าในออฟฟิศที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเดิม

 

ในทางตรงกันข้าม ฉากที่ควรจะเป็นหัวใจสำคัญกลับให้ความรู้สึกเขินอาย เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างคริสเตียน เกรย์ และอนาสตาเซีย สตีล ในช่วงฮันนีมูน หรือแม้กระทั่งฉากในครัวที่คริสเตียนพยายามทำอาหารให้ภรรยาใหม่แต่กลับทำซอสไหม้ เป็นภาพลักษณ์ที่แฝงด้วยความน่ารักที่ไม่เข้ากับบริบทที่เรื่องนี้พยายามนำเสนอ ความเป็นอนุรักษ์นิยมของ EL James ผู้เขียนนิยายต้นฉบับยังยิ่งตอกย้ำสถานะเดิมของการแต่งงานแบบรักต่างเพศ โดยให้ความสำคัญกับแหวนเพชร การซื้อบ้าน และชีวิตครอบครัวมากกว่าที่จะตั้งคำถามกับกรอบเดิมๆ ของความรักและการแต่งงาน

 

ใน Fifty Shades Freed ภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์ ความท้าทายที่ควรเกิดจากความสัมพันธ์ทางเพศกลับเลือนหายไป อนาสตาเซียไม่ลังเลที่จะยอมรับเซ็กส์ในแบบที่พวกเขามีและรู้สึกปลอดภัยกับคริสเตียน ฉากที่ควรจะดึงดูดใจกลับทำให้ตัวละครดูเป็นคู่รักธรรมดาที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เรื่องราวที่แสนจะไร้สาระ เช่น การเผชิญหน้ากับอดีตเจ้านายที่กลายเป็นผู้ก่อการร้าย หรือการต่อสู้ในทางกฎหมายและการลักพาตัว ทำให้โครงเรื่องดูเหมือนพยายามเพิ่มดราม่าโดยไม่จำเป็น ในทางกลับกัน ดราม่าที่มีเนื้อหาความสัมพันธ์อย่างแท้จริง เช่น ความขัดแย้งในชีวิตสมรส หรือความท้าทายที่มาจากการตั้งครรภ์และการเปลี่ยนแปลงในชีวิตคู่ กลับถูกละเลยหรือแก้ไขอย่างง่ายดายโดยไม่ให้ความสำคัญที่ควรมี

 

คริสเตียน เกรย์ ในฐานะตัวละคร ถูกออกแบบมาให้เป็นชายหนุ่มผู้บอบช้ำและต้องการการเยียวยา ความซับซ้อนทางอารมณ์ของเขาทำให้เป็นบทบาทที่ยากจะดึงดูดความสนใจได้อย่างลึกซึ้ง เจมี่ ดอร์แนน ผู้รับบทคริสเตียน ถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถสะท้อนบุคลิกที่ลึกซึ้งของตัวละครนี้ได้ โดยเฉพาะในฉากที่เขาต้องแสดงความอ่อนไหว เช่น ตอนที่เขาร้องเพลง Maybe I’m Amazed ขณะเล่นเปียโน แม้ฉากนี้จะพยายามแสดงให้เห็นถึงมุมอ่อนโยนของคริสเตียน แต่กลับให้ความรู้สึกไม่สมจริง ในขณะที่ดาโกต้า จอห์นสัน ที่รับบทอนาสตาเซีย สามารถสร้างสมดุลระหว่างความจริงจังและอารมณ์ขันในฉากต่างๆ ได้อย่างลงตัว เธอสามารถทำให้ฉากที่ดูเหมือนธรรมดาหรือไร้สาระ เช่น การใช้ไอศกรีมในฉากเซ็กซ์ ดูเป็นเกมสนุกที่สร้างเสน่ห์เฉพาะตัว การแสดงของเธอยังคงโดดเด่นและเป็นจุดที่ช่วยพยุงภาพยนตร์ให้มีเสน่ห์มากขึ้น

 

แม้จะมีคำวิจารณ์เกี่ยวกับการพรรณนาความสัมพันธ์ที่ถูกมองว่าควบคุมหรือไม่เหมาะสม แต่สิ่งที่ควรได้รับการยอมรับคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนฐานของ ความยินยอม ในทุกระดับ คริสเตียนและอนาสตาเซียพูดคุยและตกลงเกี่ยวกับข้อกำหนดต่างๆ ในความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างชัดเจน และเมื่อใดก็ตามที่มีการพูดคำปลอดภัย คริสเตียนก็หยุดทันที นี่คือสิ่งที่สะท้อนถึงแนวคิดของ ความยินยอมที่กระตือรือร้น ซึ่งควรได้รับการยกย่องในบริบทวัฒนธรรมปัจจุบัน Fifty Shades มีโอกาสที่จะเป็นแฟรนไชส์ที่ผลักดันกรอบความคิดเดิมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ความรัก และเพศศึกษา แต่กลับถูกลดทอนด้วยโครงเรื่องที่ไม่จำเป็นและตัวละครที่ขาดมิติ ความสำเร็จของภาพยนตร์อาจขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลของผู้ชม แต่ในแง่ของการเล่าเรื่อง แฟรนไชส์นี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการสูญเสียโอกาสที่จะนำเสนอเนื้อหาที่ลึกซึ้งและท้าทายมากขึ้น ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ mvhd24.com โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องสมัครสมาชิกให้ยุ่งยาก ได้แล้ววันนี้

 

#FiftyShadesFreed  #ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด  #ดูหนังฝรั่ง  #mvhd24  #รีวิวหนัง  #MovieReview  #MovieSpoilers


 


กลับด้านบน

Report this page